วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ทิ้งเวร




          วันแรกที่เขาเข้ามาทำงาน  เพื่อนใหม่ทุกคนพากันอมยิ้ม
          "คนอะไรวะชื่อทิ้งเวร"  
          เขาย้อนว่า  "อ้าว  แล้วนายอยากอุ้มเวรไว้รึไง"
          "ชื่ออย่างนี้  อย่าไปสมัครงาน  รปภ.นะ  เขาไม่รับหรอก"
          "รู้  อีกหน่อยจะไปทำงานมูลนิธิวัดแล้ว  เขาชอบ"
          แต่ก็ด้วยชื่อนี้แหละ  ที่ทำให้เขากลายเป็นศิราณี  ช่วยตอบคำถามเรื่องบุญกรรมให้เพื่อนๆ อยู่เสมอ
          วันนี้ก็เหมือนกัน  บุญเทียมหน้าหงิกเข้ามาหา  นั่งเสยหัวอันยุ่งเหยิงอยู่  หวังจะให้เรียบ
          "เฮ้ย  เวร"  บุญเทียมว่า
          "ไม่ช่าย  ทิ้งเวร"  เขาว่า
         "เออ...ทิ้งเวร  เราเป็นอะไรไม่รู้  ทำไมชีวิตมันยุ่งทั้งวันยังงี้วะ  นี่ทั้งเดือนเลย  เดี๋ยวได้โน่น  เดี๋ยวไอ้นี่  กลับรถแทบไม่ทัน  นี่เพิ่งจะหยุดหายใจมั่ง" 
          "อ้อ  ตายแล้วหรือ"
          "ยัง  ยังเป็นอยู่  ช่วยหน่อยซิ"
          "ชื่อบุญเทียม  ปกติเขาแปลว่ามีบุญมาอยู่ด้วย  สงสัยของนายจะแปลว่าบุญปลอม  เลยเหนื่อยหน่อยมั้ง"  ทิ้งเวรอมยิ้ม  แต่เห็นบุญเทียมยังหน้าหงิก  เลยสงสารจึงเลิกเย้า
          "อย่างนี้เขาเรียกกรรมเล็กกรรมน้อยคอยเบียดเบียน  แต่บางทีเป็นเพราะนายจัดเวลาไม่เป็นเองด้วยหรือเปล่า  นายต้องบริหารเวลาเองด้วย  แต่กรรมเล็กกรรมน้อยนี่  น่าจะแก้ด้วยบุญเล็กบุญน้อยเหมือนกันนะเราว่า"
          "ทำยังไง  ทำนิดทำหน่อยเหรอ"  บุญเทียมอยากรู้
          "ใช่  ทำบุญเล็กบุญน้อย  แต่ทำบุญทุกวัน  นายรู้ว่าอะไรเป็นบุญมั้ย  บุญคือการช่วยเหลือให้คนอื่นสบายใจ  แล้วเราสบายใจด้วย  เช่น  จอดรถให้คนข้ามถนน  ให้ทิปเล็กๆ น้อยๆ กับเด็กปั้มน้ำมัน  ใส่กระปุกหัวเตียงสักวันละ 5 บาท  สิ้นเดือนเอาไปบริจาคอาหารกลางวันเด็กยากจน  ยืมเทปธรรมะจากห้องสมุดไปฝากแม่ยาย  อย่าโกรธใคร  คอยให้อภัยคนอื่น  เวลาไปทำงานให้แม่ยายแทนที่จะคิดว่ายุ่งจัง  เป็นภาระ  ให้คิดใหม่ว่าไปทำบุญ  คือไปช่วยให้กิจนั้นสำเร็จลง  เพราะแม่ยายเราไปทำเองไม่ได้  หรือในที่ทำงาน  แค่นายกินกาแฟ  แล้วช่วยยกไปที่ครัวให้แม่บ้านหน่อย  นี่ก็บุญแล้ว  หรือเจอใครก็ยิ้มให้เขา  ทำให้เขาสบายใจก็บุญแล้ว  นี่เราแค่นั่งฟังนายระบายกลุ้มก็ไม้บุญแล้ว  ถ้านายต้องไปโน่นไปนี่ทั้งวันลองติดเทปธรรมะใส่รถเปิดฟังเทปธรรมะก็ได้บุญแล้ว  เพราะได้ความรู้ ได้ปัญญา พอยัง  เหนื่อยแล้วนะ"
          บุญเทียมพยักหน้าหงึกหงักตลอดเวลา  เหมือนมือของแมวกวักหน้าร้านขายของ  สนอกสนใจมากเลย
          "แต่ทำบุญต้องมีเจตนาดี  ทำด้วยความเมตตาว่าอยากทำให้จริงๆ  ให้เงินใครอย่างของผ้าป่า  ให้ 10 บาทไม่ต้องมาก  แต่เจตนาดีว่าได้มีโอกาสร่วมงานบุญ  ไม่ใช่รู้สึกรำคาญอยู่ในใจ  ให้พ้นๆ ไปอย่างงั้นๆ ต้องปรับความคิมุมมองใหม่  เพราะบุญจะเกิดได้เมื่อเราตั้งเจตนาดี  ทำด้วยเมตตาจิต  มองโลกจากมุมของเมตตา  ได้บุญเยอะ"
          บุญเทียมเริ่มยิ้มออก  ดวงตาส่อแววสดใสขึ้น  แต่ก็บอกว่า
          "เราเคยให้ด้วยความรำคาญจริงๆ แหละ"
          ทิ้งเวรเสริมว่า
          "เจตนาดีไม่ดีแล้วแต่เราจะเลือกคิด  มันเหมือนพวงมาลัยรถ  แล้วแต่เราจะเลือกเลี้ยวซ้ายหรือขวา  เอาบุญหรือเอาบาป  อยู่ที่ความคิดทั้งนั้น  คิดบุญก็เป็นบุญ  คิดบาปก็เป็นบาป"
          "ต่อไปต้องคิดใหม่  ไหนๆ ก็ต้องใส่ของแหง๋ๆ อยู่แล้ว  ทำให้ได้บุญไปเสียด้วยเลยดีกว่าเนอะ"
          ทิ้เวรยิ้ม  แล้วหยิบซองผ้าป่าส่งให้บุญเทียม



(จาก หนังสือช้อปปิ้งบุญ  โดย ขวัญ เพียงหทัย)

          


ไม่มีความคิดเห็น: