เวลาทิวทัศน์ไปวัด จะเจอคนขายนกปล่อยอยู่หน้าวัดเสมอและเขาก็จะปล่อยนกเสมอเหมือนกัน แม้จันทน์หอมจะไม่เห็นด้วย เขาบอกว่า
"ผมมองเห็นนกมันเดือดร้อนอยู่ตรงหน้าผมช่วยมันก่อน ผมไม่คิดไกลว่ามันจะไปไหน"
"เราไม่ใช่นก เราคิดไกลได้ บาบบางอย่างมาในรูปของบุญ" จันทน์หอมอธิบาย "เธอซื้อบุญด้วยนกสิบตัว แต่เธอก่อบาปให้ตัวเอง ในการช่วยส่งเสริมให้เขาขายนกต่อไป เขาไม่เปลี่ยนอาชีพเสียทีก็เพราะมีคนซื้อ เขาไม่อดตายหรอก ถ้าไม่มีคนซื้อเขาก็ต้องไปทำอย่างอื่นจนได้"
"แล้วนำพวกนี้เล่า" ทิวทัศน์ถาม "จะปล่อยให้มันถูกขังอยู่อย่างนี้หรือ"
"มันถูกขัง ก็เพราะอนาคตของมันมีคนจะซื้อ เราปล่อยนกสิบตัว ทำให้นกเป็นพันๆ ตัวถูกจับ เพราะเขาเห็นว่าขายดี"
จันทน์หอมมองนกที่ยังเหลืออีกหลายกรง
"บางทีเราต้องยอมสละส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่เหมือนนิ้วไหนเสียก็ต้องตัดนิ้วนั้นทิ้ง รักษาชีวิตไว้ เราปล่อยบุญน้อยที่เราได้จากการปล่อยนกวันนี้ แต่เราจะได้ทำบุญกับนกที่ไม่ถูกจับนับพันตัว"
"เราไม่ซื้อ คนอื่นเขาก็ซื้อไม่ใช่หรือ" ทิวทัศน์เอ่ยท้วง
"เขาไม่รู้ คนมักคิดว่าปล่อยนกแล้ว จะได้ฝาโชคร้ายไปกับนก อธิษฐานยาวนานขอให้บุญปล่อยนก บันดาลให้ตนร่ำรวยโชคดี เขาไม่รู้ว่าโชคอยู่ที่กรรมของตัวเองที่เคยสร้างมา ไม่ได้อยู่ที่นก ถ้านกตัวเล็กๆ อย่างนี้ทำให้เรารวยได้ เราก็ไม่ต้องทำงานซี ปล่อยนกทุกวันดีกว่า จริงมั้ย"
"แล้วนกที่ถูกจับไปแล้วล่ะ" ทิวทัศน์มองนกในกรงอีก
"นกกลุ่มน้อยพวกนี้ มันคงเคยกักขังใครมาก่อน เลยต้องเป็นไปตามกรรมของสัตว์อย่างนี้แหละ คนขายนกอีกหน่อยก็ต้องมีชีวิตที่ถูกขังเหมือนกัน บางทีเธอด้วย"
"อ้าว ไหงงั้นล่ะ" ทิวทัศน์โวยวาย
"เพราะพระท่านว่า การส่งเสริมก็เหมือนทำเองนะ รู้มั้ยเธออาจจะไม่ถึงกับถูกจับขังกรง แต่จะคล้ายๆ ถูกขัง ทำนองนั้น"
"เหมือนการมีเมียใช่มั้ย" ทิวทัศน์พูดกลั้วหัวเราะ
(จาก หนังสือช้อปปิ้งบุญ โดย ขวัญ เพียงหทัย)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น