วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สอนแม่ฝึกหัดปฏิบัติธรรม ตอน 5



หลานฉงน

          เมื่ออาม่ามีพุทโธเป็นเพื่อน  หลานจะซนอาม่าก็ไม่สนใจ  ครั้นอาม่าอยากจะบ่นอยากจะว่า ก็มิรอช้าหันมาหาลูกประคำ  นับเม็ดประคำ  ท่องบ่นภาวนา  พุทโธ...พุทโธ...พุทโธ ดีกว่า  เจ้าหลานน่ารักทำหน้าฉงน  ปกติชอบวิ่งซน  อาม่าต้องมาร่วมสาละวนห้ามปราม  แต่มาวันนี้อาม่าไม่บ่นไม่ว่า  หันหาลูกประคำ  ภาวนา  พุทโธ  แปลกอยากรู้อยากเห็นจังเลย หลานนึกในใจ

          หลานน้อย  เดินย่องแอบมองด้านหลังอาม่า เห็นเม็ดกลมๆ ถูกเลื่อนไปทีละเม็ดๆ เห็นปากอาม่าขมุบขมิบ พุทโธ...พุทโธ...พุทโธ  หลานน้อยก็พลอยหยุดซนหันมาสนใจของเล่นชิ้นใหม่  สะกิดแขนอาม่า “อาม่าทำอะไร ขอหนูเล่นด้วยคน”  อาม่าบอกว่า “เล่นไม่ได้ ของพระ หนูอยู่เงียบๆ อาม่าจะว่าพุทโธ ให้ฟัง”

          หลานก็สงบอาม่าก็สงัด  อาม่าว่าพุทโธหลานก็ฟังจนเคลิ้มหลับ มินานนัก  อาม่าก็เริ่มสงบเย็นใจ  ที่วุ่นก็กลายเป็นว่าง  ว่างจากความหงุดหงิดจิตฟุ้งซ่าน

ตกเย็นผมเดินไปเยี่ยมแม่
“แม่เป็นยังไงบ้างครับ พุทโธ อยู่กับลูกประคำ หรือพุทโท่ อยู่กับหลาน”  แม่ยิ้มแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

“ต่อนี้ไปแม่จะภาวนาพุทโธ ทุกวัน”  แม่เน้นเสียงคำว่า ทุกวัน ด้วยใบหน้าที่ชื่นบาน ด้วยแววตาที่มีความสุข

“แม่ส่งการบ้านหน่อยซิครับ  ภาวนาพุทโธ เป็นยังไงบ้าง”

“เวลาแม่พุทโธ แรกๆ ใจก็มาอยู่กับพุทโธดี แต่พอไม่นานมันก็ฟุ้งไปคิด  ปากก็ว่าพุทโธ  แต่ใจมันไม่ได้อยู่กับพุทโธ  มันฟุ้งบ่อยมาก บางทีก็นึกโกรธตัวเองทำไมมันฟุ้งบ่อยจัง”

“นั่นแหละครับ...ดีแล้ว  แม่เริ่มปฏิบัติธรรมเป็นแล้ว”
“อ้าว  ฟุ้งอย่างงี้นะหรือปฏิบัติธรรมเป็น”

“เป็นตรงที่แม่รู้ว่ามันฟุ้งบ่อย ตอนฟุ้งแสดงว่า แม่เผลอสติ แต่ตอนรู้ว่าฟุ้ง  ตอนนั้นแม่มีสติ แต่พอมีสติแป๊บเดียว มันก็เผลอสติครั้งใหม่ ดีแล้วครับ ฝึกแบบนี้ต่อไปนะครับ  ถ้าแม่ฝึกบ่อยๆ อาการฟุ้งจะน้อยลงไปเอง เวลาฟุ้งก็ฟุ้งไม่นาน เดี๋ยวก็มีสติรู้ตัวขึ้นมา เพียงแต่ว่า แม่อย่าไปโกรธฟุ้งนะครับ เพราะฟุ้งก็เป็นธรรมะ

“ฟุ้งเป็นธรรมะตรงไหน”  แม่ถาม

“เป็นตรงที่เห็นว่า มันบังคับไม่ได้ จิตใจมนุษย์มันคิดโน่นคิดนี่อยู่ไม่หยุด เดี๋ยวก็ไปรับรู้สิ่งนั้น เดี๋ยวก็มารับรู้สิ่งนี้ ห้ามก็ไม่ได้ บังคับก็ไม่ได้ หากเราฝึกสติรู้ตัวบ่อยๆ สุดท้ายจิตใจก็จะตั้งมั่นไม่ซัดส่ายเผลอเพลิน ออกนอกกายนอกใจ

“แม่ฝึกต่อไปนะครับ อยู่กับ  “พุทโธ”  นะครับ มี “พุทโธ” เป็นที่พึ่งให้ได้นะครับ ผมกลับบ้านก่อนนะครับมันมืดค่ำแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันต่อดีมั้ยครับ

“เออ...ดีๆ  ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วรีบเข้านอนเถอะ  พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน”
“ครับ”

ราตรีสวัสดิ์ นี่ผมพูดในใจ  เพราะเห็นว่า นี่เป็นราตรีแห่งความสวัสดี  สวัสดีตรงที่แม่เริ่มรู้จักธรรมะ  เริ่มรู้จักความฟุ้ง  ความสงบ  รู้จักสังเกตถึงสภาวธรรมต่างๆ หรืออาการต่างๆ  ที่มันปรากฏขึ้นที่กาย ที่ใจได้บ้างแล้ว


(จากหนังสือ สอนแม่ฝึกหัดปฏิบัติธรรม โดย ธีรยุทธ  เวชเจริญยิ่ง)

ไม่มีความคิดเห็น: