วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน : ประวัติ ตอนที่ ๖ ออกปฏิบัติพรรษาแรก จิตได้ความสงบ (พ.ศ. ๒๔๘๔)

เทศน์เมื่อ  ๓๑  ตุลาคม  ๒๕๒๑


   
             จิตธรรมดายังหาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้  ไม่ว่าจิตของใคทั้งนั้น   พอมีสิ่งถูไถลากไปลากมาในทางที่ไม่ดี  ก็กลิ้งไปตามอารมณ์นั้นไม่หยุดหย่อน  จนหาหลักยืดพอจะประทังความสงบสุขไว้ไม่ได้  ตามหลักธรรมท่านว่า กิเลส เราจะเห็นได้จากเวลาเริ่มฝึกหัดอบรมเบื้องต้น  จิตมันล้มลุกคลุกคลานไม่ยอมไปตามธรรมเลย  เพราะกิเลสมันรุนแรง

          ผมจำไม่ลืมเลย  ตั้งแต่ออกปฏิบัติทีแรกจนกระทั่งปัจจุบัน  เพราะมันเป็นเรื่องสัจธรรมฝังอยู่ในจิตจะลืมได้อย่างไร   ตอนปฏิบัติทีแรกก็เอาจริงเอาจัง  และนิสัยเรามันจริงด้วยไม่ใช่เล่นๆ หยอกๆ ถ้าปักลงตรงไหนแล้วต้องเป็นอย่างนั้น

          ทีนี้พอออกปฏิบัติแล้ว  มีหนังสือปาฏิโมกข์พกอยู่เล่มเดียวเท่านั้นติดย่ามไป  คราวนี้จะเอาให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย  เต็มเหตุเต็มผล เอาเป็นเอาตายเข้าว่าเลย   อย่างอื่นไม่หวังทั้งหมด  หวังความพ้นทุกข์อย่างเดียวเท่านั้น   จะให้พ้นทุกข์ในชาตินี้แน่นอน  ขอแต่ท่านผู้หนึ่งผู้ใดได้ชี้แจงให้เราทราบเรื่องมรรคผลนิพพานว่ามีอยู่จริงเท่านั้น   เราจะมอบกายถวายชีวิตต่อผู้นั้น  และมอบกายถวายชีวิตต่ออรรถต่อธรรม  ด้วยข้อปฏิบัติอย่างไม่ให้มีอะไรเหลือหลอเลย  ตายก็ตายไปกับข้อปฏิบัติไม่ได้ตายด้วยความถอยหลัง  นั่นจิตมันปักลงเหมือนหินหัก

          ออกมาทีแรกก็มาจำพรรษาโคราช  อำเภอจักราช  เพราะตามท่านอาจารย์มั่นไม่ทัน  ก็เร่งความเพียรตั้งแต่มาถึงทีแรก  ไม่นานจิตก็ได้ความสงบ  เพราะทำทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมทำงานอะไรทั้งนั้น  นอกจากงานสมาธิภาวนาเดินจงกรมอย่างเดียว   ตามประสาของคนล้มลุกคลุกคลานนั่นแหละ   จิตมันก็สงบได้  ก็เร่งใหญ่เลย   แต่ก็ดังที่เคยเล่าให้ฟังแล้ว  มันก็มาเสื่อมตอนทำกลด  ตอนนั้นสมาธิไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะ  แน่นปึ้งเลยเทียว  แน่ใจว่ามรรคผลนิพพานแล้ว  เพราะจิตมันแน่นปึ้ง   ไม่สะทกสะท้านกับอะไร  แม้ขนาดนั้นก็ยังเสื่อมได้  แต่ทำกลดหลังเดียวเท่านั้น

______________________________________

ไม่มีความคิดเห็น: