ผมพูดนี้เอาตัวผมยันเลยเชียว ปริยัติผมก็เรียนมาดังท่านทั้งหลายทราบแล้ว แล้วทางปฏิบัติผมก็ได้ปฏิบัติเต็มสัดเต็มส่วน เต็มกำลังความสามารถ เพราะมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าว่า จะรื้อถอสกิเลสออกจากใจโดยสิ้นเชิงในชาตินี้ การปฏิบัติตัวเองจึงผาดโผนโจนทะยานมากทีเดียว ความพากความเพียรเอาเต็มเม็ดเต็มหน่วย นี่ละเหตุเป็นยังไง ผลก็ตามมาอย่างนั้น มีความขยันหมั่นเพียง เด็ดเดี่ยว หรือผาดโผนขนาดไหนในการบำเพ็ญเหตุ ผลก็ตมมาๆ อย่างนั้น ผมจึงเชื่อเรื่องการบำเพ็ยขึ้นอยู่กับเหตุ ถ้าเหตุบำเพ็ญขนาดไหน ผลจะค่อยแสดงออกมาๆ ตามนั้น
นี่เราบำเพ็ญ จึงว่ามันไม่ใช่คัย คือ เราเอาความจริงที่เราบำเพ็ญมาแล้ว มาพูดให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายฟัง พูดนี้ไม่อยากมีใครเชื่อนะ ถึงขนาดนั้น แต่เราก็ทำเองแล้ว ใครเชื่อไม่เชื่อก็เราทำเอง เราเชื่อเราเองพอ นั่นเราไม่ได้เอาใครมาเป็นสักขีพยานเพื่อจะตัดคะแนน หรือเพิ่มคะแนนให้เรา เราไม่มี เราจะตัดเราเองคะแนนเพิ่มก็เป็นคะแนนของเราเองให้ประจักษ์กับใจของเรา
เพราะฉะนั้นการบำเพ็ญเพียรเพื่อละกิเลส การศึกษาเล่าเรียนท่านเหมือนเรา เราเหมือนท่าน ไม่มีหนักมีเบาอะไร ธรรมดา ผมไม่ถือเป็นข้อสะดุดใจ แต่เวลาออกปฏิบัตินี่สำคัญมากนะ เพราะเรามีความมุ่งมั่นอยู่ตั้งแต่ต้นแล้ว แม้แต่เรียนหนังสืออยู่ผมก็ไม่เคยละการภาวนา แต่ไม่เคยพูดให้ใครฟัง อยู่ภายในจิตๆ ตลอดตั้งแต่เรียนหนังสือ พอจบจากการเรียนตามคำอธิษฐานแล้วก็ก้าวเดินทางด้านกรรมฐาน เข้าป่าเข้าเข้า ได้หลวงปู่มั่นเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นหลักชัยให้แล้วก็ฟังอย่างถึงใจ
___________________________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น