วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน : ประวัติ ตอนที่ ๑๐ ความฝันปฏิปทาการดำเนิน

เทศน์เมื่อ  ๓๑  ตุลาคม  ๒๕๒๑



          ไปอยู่กับท่านได้ประมาณสัก ๔-๕ คืนเท่านั้นกระมัง  ความฝันนี้ก็เป็นความฝันเรื่องอัศจรรย์เหมือนกัน   ฝันว่าได้สะพายบาตรแบกกลด  ครองผ้าด้วยดีไปตามทางอันรกชัฏ  สองฟากทางแยกไปไหนไม่ได้  มีแต่ขวากแต่หนามเต็มไปหมด  นอกจากจะพยายามไปตมทางที่เป็นเพียงด่านๆ ไปอย่างนั้นแหละ  รกรุงรัง  หากพอรู้เงื่อน  พอเป็นแถวทางไป  พอไปถึงที่แห่งหนึ่งก็มีกอๆไผ่หนาๆ ล้มทับขวางทางไว้  หาทางไปไม่ได้  จะไปทางไหนก็ไปไม่ได้  มองดูสองฟากทางก็ไม่มีทางไป  เอ ! นี่เราจะไปยังไงนา  เสาะที่นั่น  เสาะที่นี่ไป  ก็เลยเห็นช่อง  ช่องที่ทางเดินไปตรงนั้นแหละ  เป็นช่องนิดหน่อยพอที่จะบึกบึนไปให้หลวมตัวกับบาตรลูกหนึ่งพอไปได้

          เมื่อไม่มีทางไปจริงๆ ก็เปลื้องจีวรออก  มันชัดขนาดนั้นนะความฝัน  เหมือนเราไม่ได้ฝัน  เปลื้องจีวรออกพับเก็บ  อย่างที่เราพับเก็บเอามาวางนี้แล  เอาบาตรออกจากบ่า  เจ้าของก็คืบคลานไป  แล้วก็ดึงสายบาตรไปด้วย  กลดก็ดึงไปไว้ที่พอเอื้อมถึง  พอปีนไปได้ก็ลากบาตรไปด้วย  ลากกลดไปด้วย  แล้วก็ดึงจีวรไปด้วย  ปีนไปอยู่อย่างนั้นแหละ  ยากแสนยาก  พยายามบึกบึนกันอยู่นั้นเป็นเวลานาน  พอดีเจ้าของก็พ้นไปได้  เดี๋ยวก็ค่อยดึงบาตรไป  บาตรก็พ้นไปได้  แล้วก็ดึงกลดไป  กลดก็พ้นไปได้  พยายามดึงจิวรไป  จีวรก็พ้นไปได้  พอพ้นไปได้หมดแล้วก็ครองผ้า  มันชัดขนาดนั้นนะความฝัน  ครองจีวรแล้วก็สะพายบาตร  นึกในใจว่าเราไปได้ล่ะที่นี่  ก็ไปตามด่านนั้นแหละ  ทางรกมาก  พอไปประมาณสัก ๑ เส้นเท่านั้น  สะพายบาตร  แบกกลด  ครองจีวรไป

          ตามองไปข้างหน้าเป็นที่เวิ้งว้างหมด  คือข้างหน้ามันเป็นมหาสมุทร  มองไปฝั่งโน้นไม่มี  เห็นแต่ฝั่งที่เจ้าของยืนอยู่เท่านั้น  และมองเห็นเกาะหนึ่งอยู่โน้นไกลมาก  มองสุดสายตา  พอมองเห็นเป็นเกาะดำๆ นี่แหละ  นี่เราจะไปเกาะนั้น  พอเดินลงไปฝั่งนั้น  เรือไม่ทราบมาจากไหน  เราก็ไม่ได้กำหนดว่าเรือยนต์  เรือแจว  เรือพายอะไร  เรือมาเทียบฝั่ง  เราก็ขึ้นนั่งเรือ  คนขับเรือเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกับเรา  พอลงไปนั่งเรือแล้ว  ก็เอาบาตรเอาอะไรลงวางบนเรือ  เรือก็บึ่งพาไปโน้นเลยนะ  โดยไม่ต้องบอก  มันอะไรก็ไม่ทราบ  บึ่งๆๆ ไปโน้นเลย  ไม่รู้สึกว่ามีภัยมีอันตราย  มีคลื่นอะไรทั้งนั้นแหละ  ไปแบบเงียบๆ ครู่เดียวเท่านั้นก็ถึง  เพราะเป็นความฝันนี่

          พอไปถึงเกาะนั้นแล้ว  เราก็ขนของออกจากเรือแล้วขึ้นบนฝั่ง  เรือก็หายไปเลยไม่ได้พูดกันสักคำเดียวกับคนขับเรือ  เราก็สะพายบาตรขึ้นไปบนเกาะนั้น  พอปีนเขาขึ้นไปๆ ก็ไปเห็นท่านอาจารย์มั่นกำลังนั่งอยู่บนเขาบนเตียงเล็กๆ  กำลังนั่งตำหมากจ๊อกๆ อยู่  พร้อมกับมองมาดูเราที่กำลังปีนเขาขึ้นไปหาท่าน  "อ้าว ! ท่านมหามาได้ยังไงนี่  ทางสายนี้ใครมาได้เมื่อไหร่  ท่านมหามาได้ยังไงกัน"  "กระผมนั่งเรือมา  ขึ้นเรือมา"  "โอ้โฮ ! ทางนี้มันมายากนา  ใครๆ ไม่กล้าเสี่ยงตายมากันหรอก  เอ้า ! ถ้าอย่างนั้นตำหมากให้หน่อย"  ท่านก็ยื่นตะบันหมากให้  เราก็ตำจ๊อกๆๆ ได้ ๒-๓ จ๊อก   เลยรู้สึกตัวตื่น   แหม ! เสียใจมาก  อยากจะฝันต่อไปอีกให้จบเรื่องก่อนค่อยตื่นก็ยังดี

          พอตื่นเข้ามาก็เลยไปเล่าความฝันให้ท่านฟัง  ท่านพูดทำนายได้ดีมาก  "เอ้อ ! ที่ฝันนี้เป็นมงคลอย่างยิ่งแล้วนะ  นี้เป็นแบบเป็นฉบับในปฏิปทาของท่านไม่เคลื่อนคลาดนะ  ให้ท่านดำเนินตามปฏิปทาที่ท่านฝันนี้  เบื้องต้นจะยากลำบากที่สุดนะ"  ท่านว่าอย่างนั้น   "ท่านต้องเอาให้ดี  ท่านอย่าท้อถอย  เบื้องต้นนี้ลำบาก  ดูท่านลอดกอไผ่มาทั้งกอ  นั่นแหละลำบากมากตรงนั้น  เอาให้ดีอย่าถอยหลังเป็นอันขาด  พอพ้นจากนั้นไปแล้วก็เวิ้งว้าง  ไปได้สบายจนถึงเกาะ"  ท่านว่าอย่างนั้น  "อันนั้ไม่ยาก  ตรงนี่ตรงยากนา"

____________________________________

ไม่มีความคิดเห็น: