วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน : ประวัติ ตอนที่ ๒๕ ทดสอบกามราคะด้วยวิธีต่างๆ (บรรลุอนาคามี)

เทศน์เมื่อ  ๓๑  ตุลาคม  ๒๕๒๑



          ตอนอสุภะนี่สำคัญอยู่มากนะ  สำคัญมากจริงๆ  พิจารณาอนุภะนี่มันคล่องแคล่วแกล้วกล้ามองดูอะไรทะลุไปหมด  ไม่ว่าจะหญิง  จะชาย  จะหนุ่มสาวขนาดไหน  เอ้า ! พูดให้เต็มตามความจริงที่จิตมันกล้าหาญน่ะ  ไม่ต้องให้มีผู้หญิงเฒ่าๆ แก่ๆ ล่ะ  ให้มีแต่หญิงสาวๆ เต็มอยู่ในชุมนุมนั้นน่ะ  เราสามารถจะเดินบุกเข้าไปในที่นั่น  โดยไม่มีราคะตัณหาอันใดแสดงขึ้นมาได้เลย  นั่น  ความอาจหาญของจิต  เพราะอสุภะ

          มองดูคนมีแต่หนังห่อกระดูก  มีแต่เนื้อหนังแดงโร่ไปหมดน่ะ  ไม่เห็นความสวยความงามที่ไหน  เพราะอำนาจของอสุภะมันแรง  มองดูรูปไหน  มันก็เป็นแบบนั้นหมด  แล้วมันจะเอาความสวยงามมาจากไหนพอให้กำหนัดยินดี  เพราะฉะนั้นมันจึงกล้าเดินบุก  เอ้า ! ผู้หญิงสาวๆ สวยๆ นั้นแหละไปได้อย่างสบายเลย  คราวมันกล้าหมายถึงมันกล้า  ความกล้านี่ก็ถูกทาง  แต่ก็เมื่อมันผ่านไปแล้ว  มันก็เรียกว่า  ความกล้านี่มันก็บ้าอันหนึ่งเหมือนกัน  แต่ตอนเดินดำเนินทางนี้ก็เรียกว่าถูก

          การพิจารณาอสุภะอสุภัง  พิจารณาไปจนกระทั่งราคะนี้ไม่ปรากฏเลย  ค่อยหมดไปๆ และหมดไปเอาเฉยๆ  ไม่ได้บอกเหตุบอกผล  บอกกาล  บอกเวลา  บอกสถานที่เลยว่า  ราคะความกำหนัดยินดีในรูปหญิงรูปชายนี้ได้หมดไปแล้วตั้งแต่ขณะนั้น  เวลานั้น  สถานที่นั้นไม่บอก  จึงต้องมาวินิจฉัยกันอีก  ความหมดไปๆ เฉยๆ นี่ไม่เอา คือ จิตไม่ยอมรับ  ถ้าหมดตรงไหน  ก็ต้องบอกว่าหมดสิ  ให้รู้ชัดว่าหมดเพราะเหตุนั้น  หมดเพราะขณะนั้น  หมดในสถานที่นั้น  ต้องบอกเป็นขณะให้รู้...

          พลิกใหม่  คราวนี้เอาสุภะเข้ามาบังคับแก้อันที่ว่าอสุภะที่มีแต่ร่างกระดูกนั้นออก  เอาหนังหุ้มห่อให้สวยให้งามบังคับนะ  ไม่งั้นมันทะลุทันทีนะ  เพราะมันชำนาญนี่  บังคับหนังหุ้มกระดูกให้สวยให้งาม  ให้ติดแนบกับตัวเอง  นี่วิธีพิจารณาของเรา  เดินจงกรมก็ให้ความสวยความงามอันนั้นน่ะ  รูปอันนั้นน่ะติดแนบกับตัว  ติดกับตัวไปอย่างนั้น  เอ้า ! มันจะนานสักเท่าไร  หากมันมีอยู่  มันจะต้องแสดงขึ้นมา  ถ้ามันไม่มีก็ให้รู้ว่าไม่มี  เอาวิธีการนี้มาปฏิบัติได้ ๔ วันเต็มๆ นะ  ที่มันไม่แสดงความกำหนัดขึ้นมาเลย  ทั้งๆ ที่รูปนี้สวยงามที่สุด  น่ารักใคร่ชอบใจที่สุด  มันก็ไม่แสดง  มันคอยแต่จะทหยั่งเข้ากระดูก  หนังห่อกระดูก  บังคับไว้อยู่กับผิวหนังนี่

          พอถึงคืนที่ ๔ น้ำตาร่วงออกมาบอกว่า  ยอมแล้ว  ไม่เอาคือไม่ยินดีนะ  มันบอกมันยอมแล้ว  ยอมอะไร?  ถ้ายอมว่าสิ้นก็ให้รู้ว่าสิ้นซิ  ยอมอย่างนี้ไม่เอา  ยอมนี้ยอมมีเล่ห์เหลี่ยม  เราไม่เอา ! กำหนดไปกำหนด  กำหนดทุกแง่ทุกมุมนะ  แง่ไหนมุนใดที่มันจะเกิดความกำหนัดเพื่อจะรู้ว่ามันขึ้นขณะไหน  ความกำหนัดนี่เราจะจับเอาตัวนั้นตัวแสดงออกมานั้น  พิจารณาแต่สุภะอย่างเดียวเท่านั้น ๔ วันเต็มๆ คือเราจะหาอุบายทดสอบมัน

          พอสัก ๓-๔ ทุ่มล่วงไปแล้วในคืนที่ ๔  มันก็มียุบยับเป็นลักษณะเหมือนจะกำหนัดในรูปที่สวยๆ งามๆ  ที่เรากำหนดมาติดแนบกับตัวเรา  เนี่ยมันยุบยับ  หือ ! ชอบกล  แน่ะ ! มันทันนะ  เพราะสติมันมีอยู่ตลอดเวลา  นี่จะกำหนดเสริมขึ้นเรื่อยๆ  เอ้า ! กำหนดเสริมขึ้น  มันก็มีลักษณะยุบยับๆ นั่นเห็นไหม  นั่น ! จับเจ้าของได้แล้วนะ  เห็นไหม  มันสิ้นได้ยังไง  ถ้าสิ้นทำไมจึงต้องเป็นอย่างนี้

          ที่่นี่ยังไม่หมดแล้วจะปฏิบัติยังไง  ก็ต้องปฏิบัติสับเปลี่ยนกัน  พอเรากำหนดไปทางอสุภะนี้มันพรึบเดียวเลยนะ  มันเร็วที่สุดเพราะมันมีความชำนาญ  พอกำหนดเรื่องอสุภะนี่มันเป็นกองกระดูกไปหมดทันที  แล้วกำหนดสุภะความสวยงามขึ้นมาแทนที่  เอ้า ! เอาอย่างนั้น  นี่ก็เป็นเวลานาน  เพราะทางเราไม่เคยเดิน  เราไม่เข้าใจก็ต้องได้ทดสอบด้วยวิธีต่างๆ...

          ทีนี้วาระสุดท้ายนะ  เวลามันจะได้ความ  ก็นั่งกำหนดอสุภะไว้ตรงนี้  จิตกำหนดไว้ให้มันตั้งอยู่อย่างงั้นน่ะ  อสุภะตั้งอยู่ตรงนั้นตอนนั้นไม่เป็นสุภะนะ  ตั้งเป็นอสุภะแต่ไม่ให้มันทำลาย  คือตั้งให้มันคงที่ของมันอยู่นั้นล่ะ  มันจะเป็นหนังห่อกระดูก  หรือหนังออกหมดเหลือแต่กระดูก  กองกระดูกก็ให้มันรู้อยู่ตรงนั้นแล้วจิตเพ่งดู

          บทเวลามันจะได้ความนะ  ดูเอามันจะไปไหนมาไหน  กองอสุภะกองนี้จะไปไหนมาไหน  เอ้าๆ ดูเพ่ง  คือเพ่งยังไง  มันก็อยู่อย่างนั้นแหละ  เพราะความชำนาญของจิตไม่ให้ทำลาย  มันก็ไม่ทำ  พอกำหนดตรงนั้น  กำหนดเข้าไปๆ ปรากฏว่า  อสุภะที่ตั้งอยู่เนี่ยมันถูกจิตกลืนเข้ามาๆ  อมเข้ามาๆๆ ตรงนี้   เลยเป็นจิตเสียเองเป็นตัวอสุภะนั้นน่ะ   จิตตัวไปกำหนดที่ว่าอสุภะเนี่ย  มันกลืนเข้ามาๆ  เลยมาเป็นตัวจินเสียเองเป็นอสุภะ  มันก็ปล่อยผลัวะทันที  ปล่อยข้างนอก  มันต้องอย่างนี้  มันเข้าใจแล้วที่นี่  มันขาดน่ะ  มันต้องอย่างนี้ซิ  มันเป็นเรื่องของจิตต่างหากไปหลอกต่างหาก  อันนั้นเขาไม่ใช่ราคะ  อันนั้นไม่ใช่โทสะ  ไม่ใช่โมหะ  ตัวจิตผู้นี้ต่างหากเป็นตัวราคะ  โทสะ  โมหะ


_____________________________________________

   

ไม่มีความคิดเห็น: