เล่าเรื่องโดย ชยสาโร ภิกขุ
ที่เมืองจีนในช่วงฤดูร้อน ครูคนหนึ่งมักจะชอบงีบหลับในตอนบ่าย เขาสั่งให้เด็กนักเรียนเขียนเรียงความส่วนตัวเองก็นั่งหลับสัปหงก พอตื่นขึ้นมาก็ทำไก๋ว่าตัวเองไม่ได้หลับ
นักเรียน "เมื่อกี้ตอนคุณครูหลับอยู่ ผม..............."
ครู "เฮ้ย! พูดอะไรอย่างน้าน.....ครูไม่ได้หลับซักกะหน่อย"
นักเรียน "อ้าว! แล้วถ้าคุณครูไม่ได้หลับ คุณครูทำอะไรอยู่ล่ะครับ"
ครู "อย่าเอ็ดไปเชียว..... ครูแอบขึ้นไปถกปรัชญากับขงจื้อบนสวรรค์น่ะ"
บ่ายวันต่อมาอากาศร้อนอบอ้าว เด็กนักเรียนคนหนึ่งเผลองีบหลับไป ตัวครูเองตื่นขึ้นมาเห็นเด็กหลับก็ไม่พอใจ รีบเขย่าตัวให้ตื่นและขู่ว่าจะทำโทษ
เด็กรีบบอกครูทันทีว่า "คุณครูครับ ผมไม่ได้หลับนะครับ ผมขึ้นไปบนสวรรค์ไปหาขงจื้อ ผมเรียนท่านว่าผมเป็นลูกศิษย์คุณครูที่ขึ้นมาหาท่านเมื่อว่าน แต่...ขงจื้อทำท่างงๆ นะครับ ท่านว่า...เอ้!.....ครูอะไรเหรอ.....ไม่เห็นมีครูที่ไหนมานี่....." มุขเด็ดนี้ทำเอาครูพูดไม่ออกไปเลย
ท่านอาจารย์ว่าเด็กนักเรียนคนนี้ม่ไหวพริบปฏิภาณ แต่ออกไปในทางมุสาวาท ท่านให้เราฝึกคิด คิดให้เร็ว คิดให้ทันการ แต่ขอให้คิดในทางที่เป็นกุศลนะ
(จาก หนังสือเรื่องท่านเล่า โดย ศรีอรา อิสสระ)
วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556
เล่ห์กลการขาย
เล่าเรื่องโดย ชยสาโร ภิกขุ
เจ้าของร้านขายนกในฮ่องกงวางกรงนกธรรมดาๆ ใส่นกธรรมดาๆ ใส่นกธรรมดาๆ ไว้ที่บริเวณกระจกหน้าร้าน สิ่งที่ไม่ธรรมดาในกรงนกนั้น คือ ภาชนะใส่น้ำสำหรับนก มันเป็นโบราณวัตถุสมัยราชวงศ์เหม็งราคาหลายหมื่นเหรียญฮ่องกง คนที่เดินผ่านหน้าร้าน ถ้าเป็นคนที่รู้จักคุณค่าของโบราณวัตถุเป็นต้องตาลุกวาว ที่เห็นวัตถุสูงค่าเช่นนั้นอยู่ในกรงนกที่ทั้งกรงและทั้งนกดูแสนจะธรรมดาๆ ราคาถูกๆ กิเลสย่อมจะเกิดขึ้นได้ทันที และจะนำพาบุคคลนั้นๆ เข้าไปในร้าน เขาจะแกล้งถามเจ้าของร้านว่า นกกรงนั้นราคาเท่าไหร่ เจ้าของร้านก็จะบอกราคาไม่ธรรมดา คือ ราคาแพงมากสำหรับนกธรรมดาๆ ชนิดนั้น จนเขาตกใจ แม้เขาจะรู้อยู่แก่ใจว่า ราคานกไม่ควรจะแพงขนาดนั้น แต่ก็เอาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก เขาคิดว่าเขาฉลาดคนเดียว เจ้าของร้านคงไม่รู้คุณค่าของภาชนะใส่น้ำในกรงนกหรอก เขาจะรีบตกลงซื้อนก โดยไม่กล่าวถึงภาชนะใส่น้ำ เจ้าของร้านก็จะยิ้มแล้วรีบไปหยิบกรงนกออกมาส่งให้คนซื้อ แต่ไม่ลืมที่จะหยิบภาชนะใส่น้ำออกเสียก่อน
ลูกค้า "ไม่ต้องเอาออกหรอก ถึงมันจะเก่าก็ไม่เป็นไร ผมไม่ถือหรอก"
เจ้าของร้าน "คุณไม่ถือแต่ผมถือนี่ครับ ภาชนะใบเนี้ย...ย น่ะ สมัยราชวงศ์เหม็งเชียวนะครับ ราคาตั้งหลายหมื่นดอลล่าร์แน่ะ"
ท่านอาจารย์จึงว่า นี่คือตัวอย่างหนึ่งของเล่ห์กลการขายที่อาศัยความอยากหรือตัณหาธรรมดาๆ ของมนุษย์ ความอยากทำให้เราคิดว่าเราฉลาดคนเดียว จนลืมคิดไปว่าคนอื่นเขาอาจจะฉลาดกว่า
(จาก หนังสือเรื่องท่านเล่า โดย ศรีอรา อิสสระ)
เจ้าของร้านขายนกในฮ่องกงวางกรงนกธรรมดาๆ ใส่นกธรรมดาๆ ใส่นกธรรมดาๆ ไว้ที่บริเวณกระจกหน้าร้าน สิ่งที่ไม่ธรรมดาในกรงนกนั้น คือ ภาชนะใส่น้ำสำหรับนก มันเป็นโบราณวัตถุสมัยราชวงศ์เหม็งราคาหลายหมื่นเหรียญฮ่องกง คนที่เดินผ่านหน้าร้าน ถ้าเป็นคนที่รู้จักคุณค่าของโบราณวัตถุเป็นต้องตาลุกวาว ที่เห็นวัตถุสูงค่าเช่นนั้นอยู่ในกรงนกที่ทั้งกรงและทั้งนกดูแสนจะธรรมดาๆ ราคาถูกๆ กิเลสย่อมจะเกิดขึ้นได้ทันที และจะนำพาบุคคลนั้นๆ เข้าไปในร้าน เขาจะแกล้งถามเจ้าของร้านว่า นกกรงนั้นราคาเท่าไหร่ เจ้าของร้านก็จะบอกราคาไม่ธรรมดา คือ ราคาแพงมากสำหรับนกธรรมดาๆ ชนิดนั้น จนเขาตกใจ แม้เขาจะรู้อยู่แก่ใจว่า ราคานกไม่ควรจะแพงขนาดนั้น แต่ก็เอาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก เขาคิดว่าเขาฉลาดคนเดียว เจ้าของร้านคงไม่รู้คุณค่าของภาชนะใส่น้ำในกรงนกหรอก เขาจะรีบตกลงซื้อนก โดยไม่กล่าวถึงภาชนะใส่น้ำ เจ้าของร้านก็จะยิ้มแล้วรีบไปหยิบกรงนกออกมาส่งให้คนซื้อ แต่ไม่ลืมที่จะหยิบภาชนะใส่น้ำออกเสียก่อน
ลูกค้า "ไม่ต้องเอาออกหรอก ถึงมันจะเก่าก็ไม่เป็นไร ผมไม่ถือหรอก"
เจ้าของร้าน "คุณไม่ถือแต่ผมถือนี่ครับ ภาชนะใบเนี้ย...ย น่ะ สมัยราชวงศ์เหม็งเชียวนะครับ ราคาตั้งหลายหมื่นดอลล่าร์แน่ะ"
ท่านอาจารย์จึงว่า นี่คือตัวอย่างหนึ่งของเล่ห์กลการขายที่อาศัยความอยากหรือตัณหาธรรมดาๆ ของมนุษย์ ความอยากทำให้เราคิดว่าเราฉลาดคนเดียว จนลืมคิดไปว่าคนอื่นเขาอาจจะฉลาดกว่า
(จาก หนังสือเรื่องท่านเล่า โดย ศรีอรา อิสสระ)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)